รอคอย : chapter 2..............by น้ำชา
สองข้างทางมืดสนิท เสียงกรีดร้องของจักจั่นยามค่ำคืน
วังเวงยิ่งนัก ฐานันดร์ขยับตัวเข้ามาใกล้ราวกับจะสัมผัส
ร่างบอบบางที่แนบชิดอยู่ข้างกาย แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจลดมือลง
ตลอดเวลาที่รู้จักกันมา เขาไม่เคยล่วงเกินเธอเลยถึงแม้ว่า
ใจจริงจะอยากสักเพียงไหนก็ตาม เขารักเธอเหลือเกิน
จนไม่อยากเลิกรัก ไม่อยากให้เธอไปไหน ใครกันหนอที่
ได้เป็นเจ้าของหัวใจเธอ เขาจะรู้บ้างไหมว่าเขากำลัง
ครอบครองสิ่งที่มีค่ามากที่ฐานันดร์เองไม่อาจจะแย่งชิงมันมาได้
สายลมแผ่วเบาพัดให้ใบไม้ไหวเป็นจังหวะ แสงไฟจาก
ไฟฉายของเขาส่องกราดไปทั่ว หากมันก็ยังเป็นแสงสว่างเพียง
น้อยนิดเมื่อเทียบกับ ป่าทึบกลางหุบเขาเช่นนี้


วูบหนึ่งที่เสียงสะท้อนก้องของอะไรบางอย่างดังขึ้นมา ท่ามกลางความเงียบของป่า หัวใจหญิงสาวแทบหยุดเต้น เธอรู้สึกเย็นวาบเข้ามาถึงกระดูก มันเสียงอะไรกัน เธอไม่น่าดื้อดึงจะกลับมืดค่ำอย่างนี้เลย

ณุวีร์เหลือบไปเห็นคนข้างตัวที่กำลังมองมาทางเธอด้วยความเป็นห่วง เธออยากร้องไห้ เธอกลัวเหลือเกิน กลัวจนไม่อยากเดินต่อไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะมุดดินหนี เหมือนไส้เดือนที่ชอนไชอยู่ในดิน

จังหวะเดียวกัน มือของใครคนหนึ่งก็กระชากณุวีร์ออกมาอย่างแรง ความมืดทำให้เธอมองอะไรไม่เห็น ได้ยินเพียงเสียงฐานันดร์พยายามต่อสู้กับคนเหล่านั้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว ถนนสายนี้คงกลายเป็นสมรภูมิเลือดไปแล้วแน่ๆ
"วีร์" เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายเรียกชื่อเธอ ก่อนจะถูกใบมีดคมกริบหลายเล่มแทงสวนเข้ามาพร้อมๆกัน…
หญิงสาวอยากกรีดร้อง แต่ไม่มีเสียงใดๆหลุดออกมาจากริมฝีปาก แสงจากไฟฉายที่ตกอยู่บนพื้นส่องให้เธอเห็น แขน ขา ศีรษะ ที่หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ แทบดูไม่ออกเลยว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นมนุษย์มาก่อน เธอไม่อยากเชื่อ กองเนื้อนั่น คือ ฐานันดร์ เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ!
ส่วนตัวเธอเอง…ไม่ช้าก็คงตกอยู่ในสภาพนั้นเช่นกัน
ฐานันดร์จ๋า รอวีร์ด้วย
พี่เขตต์ พี่เขตต์อยู่ที่ไหน ในเวลาที่วีร์กำลังตกอยู่ในอันตรายแบบนี้ พี่เขตต์ไปอยู่ที่ไหน
…พ่อ แม่…

กลุ่มคนที่เพิ่งจัดการกับฐานันดร์เสร็จ เดินตรงเข้ามาหาเธอ วาระสุดท้ายของเธอมาถึงแล้วสินะ หากเมื่อณุวีร์มองเห็นใบหน้าของหนึ่งในคนกลุ่มนั้นถนัด เธอก็ต้องตกใจอย่างที่สุด เวลาสิบปีไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนไปเลย อีกฝ่ายก็คงตกใจมากเช่นกัน เพราะเขาถึงกับถอยออกห่างอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเธอก็ได้เผชิญกับสิ่งที่เธอกลัวที่สุดในชีวิต เหตุการณ์นี้มันเกินที่เธอจะรับไหว หญิงสาวออกวิ่ง หวังจะหนีไปให้ไกลจากโลกใบนี้ เธอได้ยินเสียงเขาตะโกนเรียกชื่อเธอ แต่ในสมองเธอมันไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ทุกสิ่งมืดมิดไปหมด เธอไม่รู้เลยว่าเธออยู่ที่ไหนหรือทำอะไร
จนกระทั่ง…รถกะบะคันหนึ่งวิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูง ผลักให้ร่างของเธอกระเด็นออกไปไกล เจ็บเหลือเกิน หากความเจ็บช้ำทางใจมันยังมีมากกว่า ณุวีร์เผลอยิ้มออกมาให้กับความขมขื่นของชีวิตก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบไป
ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือ ใบหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจของเขา…คนที่เธอรอคอยมาแสนนาน

"วีร์ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไป วีร์ ณุวีร์"
ไม่จริง เธอต้องไม่ใช่ณุวีร์ เธอเป็นเพียงคนที่เหมือนณุวีร์อย่างที่สุดแน่ๆ เขาไม่เชื่อ!

เที่ยวบิน TG823 มาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ พอร์ตแลนด์เป็นเมืองทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกาที่สวยงามและสงบสุขทีเดียว เขารู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งที่แตกต่างจากเมืองไทยราวขาวดำ แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีภาพเหตุการณ์เก่าๆอันน่าเจ็บปวดได้ สิ่งที่เขาทำลงไปมันคงกลายเป็นเงาตามตัวเขาตลอดชีวิต เขาอยากอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอฟัง อยากบอกเธอว่าเขารักเธอมากเหลือเกิน ตลอดเวลาเขาไม่เคยลืมเธอเลย เหตุการณ์ที่ผ่านมามันเป็นความผิดครั้งใหญ่ในชีวิตเขา ที่เขาไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ เขามาที่นี่เพื่อหลีกหนีให้ไกลจากเมืองไทย เขามาเพื่อตั้งต้นชีวิตใหม่ ชดใช้ความผิดเขาทำ
ริมทะเลสาบออสวีโก เรือยอชท์สีขาวจอดเรียงรายเป็นแนวยาว ผู้คนมากมายต่างมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยการเล่นเรือ ขี่จักรยาน ปิกนิก เด็กวัยรุ่นอเมริกันหลายคนเล่นสเก็ตบอร์ดผ่านหน้าเขาไป
วูบหนึ่งที่สายลมอ่อนโยนพัดผ่านใบหน้าของเขา พาเอากลิ่นหอมจางๆของดอกกุหลาบให้ฟุ้งกระจายไปทั่ว

ใช่…ณุวีร์หลุดพ้นจากชีวิตจริงอันแสนเจ็บปวดไปแล้ว และทิ้งให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เหลืออยู่…ตลอดไป


-- THE END --



l Chapter 1 l About writer l